กาแฟ ชา ชาสมุนไพร เครื่องดื่มยอดฮิตในปัจจุบันทั้งสามชนิด
ต้นกำเนิดกาแฟ อ้างอิงจากตำนานแพะเต้น ซึ่งเป็นเรื่องของคนเลี้ยงแพะชาวเอธิโอเปียชื่อคาลดี ในศตวรรษที่ ๙ ที่ค้นพบกาแฟจากการได้กินผลกาแฟหลังจากที่ได้เห็นแพะรู้สึกคึกคะนองขึ้นจากการได้กินผลดังกล่าว แต่ในเวลานั้นต้นกาแฟส่วนมากมักไม่ได้รับความสนใจใดๆ นักจนกระทั่งชาวอาหรับในเยเมนได้รับเอากาแฟเหล่านั้นไปเผยแพร่ในดินแดนอาระเบีย ในช่วงปลายศตวรรษที่ 14หลังจากนั้นวัฒนธรรมการดื่มกาแฟก็ค่อย ๆ แพร่หลายไปทั่วโลก
ต้นกำเนิดชา ชามีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนกว่า 4,000 ปีมาแล้ว หรือเมื่อ 2,737 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาเขียวได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดินามว่า เสินหนง โดยวันหนึ่งขณะที่ท่านเสินหนงกำลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นชาในป่า และกำลังต้มน้ำอยู่นั้น ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้ เป็นเหตุให้ใบชาร่วงหล่นลงในน้ำซึ่งใกล้เดือดพอดี เมื่อเขาลองดื่มก็เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก วัฒนธรรมการดื่มชาก็เริ่มตั้งแต่นั้น
ส่วนชาสมุนไพรนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะพัฒนามาจากการที่มนุษย์รู้จักต้มยา โดยใช้สมุนไพรชนิดต่าง ๆ ต่อมาเมื่อมีการดื่มชา จึงได้นำสมุนไพรหลายชนิดมาดื่มแบบการดื่มชาด้วย จึงเรียกว่าชาสมุนไพร
หากมองจากมุมมองแพทย์แผนไทยแล้ว ทั้ง 3 สิ่งนี้ กาแฟ ชาและชาสมุนไพร ล้วนเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณต่างๆ ซึ่งสามารถนำไปปรุงยารักษาโรคได้ แพทย์แผนไทยเรียกสิ่งที่นำไปปรุงยาได้เหล่านี้รวม ๆ กันว่า "เครื่องยา"
เมื่อเป็นสมุนไพรจึงมีรสชาติ เมื่อมีรสชาติก็จะรู้ว่าสามารถนำสมุนไพรหรือเครื่องดื่มเหล่านี้ไปใช้หรือบริโภคอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ดั่งคำกล่าวในตำราเภสัชกรรมไทยที่ว่า “รู้รสจึ่งรู้สรรพคุณ”
กาแฟ รสฝาดขม สรรพคุณ:รสฝาดจะช่วยสมานแผล
แก้ท้องร่วง รสขมบำรุงดีและโลหิต ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด ชา รสฝาด สรรพคุณ:รสฝาดจะช่วยสมานแผล แก้ท้องร่วง หากเป็นชนิดที่มีกลิ่นหอมจะช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น คลายเครียด ชาสมุนไพร สรรพคุณ:จะขึ้นอยู่กับรสประธานของชาเมื่อผสมออกมาแล้ว เช่น รสร้อนแก้ทางระบบลม (วาตะ) และระบบไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ปวดเมื่อย รสเย็นแก้ทางระบบความร้อน (ปิตตะ)ในร่างกาย ร้อนใน ปากแห้ง คอแห้ง รสสุขุมแก้ทางระบบความชื้นในร่างกาย (เสมหะ) มีน้ำมูก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรสย่อยอีกใน รสยา 9 รส เช่น รสหวานบำรุงผิวเนื้อให้ชุ่มชื่น
เนื่องจากกาแฟมีรสฝาดเป็นหลักจึงมีฤทธิ์ร้อน จึงไม่ควรดื่มในขณะที่ร่างกายกำลังร้อนจัดหรือ ในตอนเที่ยง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคความดันสูง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก รสขมจะไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้หัวใจเกิดการบีบตัวมากขึ้น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือแน่นหน้าอกเสียวชายโครงเข้าหัวใจ จึงไม่ควรดื่ม ข้อควรระวัง เนื่องจากชามีรสฝาดเป็นหลักจึงมีฤทธิ์ร้อน จึงไม่ควรดื่มในขณะที่ร่างกายกำลังร้อนจัดหรือในตอนเที่ยง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคความดันสูง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก ข้อควรระวัง จะขึ้นอยู่กับรสประธานอีกเช่นกัน รสร้อน ไม่ควรดื่มในช่วงที่ร่างกายร้อนหรือช่วงเที่ยง รสเย็น ไม่ควรดื่มในช่วงที่ร่างกายเย็นหรือช่วงเช้า เพราะจะทำให้ร่างกายเย็นเพิ่มเข้าไปอีก รสสุขุมสามารถดื่มได้ทั้งวัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรดื่มติดต่อกันมากเกินไป
“สิ่งใด ๆ ในโลกนี้เมื่อมีด้านที่มีประโยชน์ก็ล้วนมี
ด้านที่เป็นโทษด้วย” สมุนไพร(เครื่องยา) ก็เช่นเดียวกัน หากบริโภคน้อยไปก็ไม่เห็นผล บริโภคมากเกินก็เกิดผลเสียหรือบริโภคไม่ถูกวิธีก็ล้วนมีโทษเช่นกัน ในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรต่าง ๆ ผลิตออกมามากมาย มีกระแสข่าวทั้งในด้านบวก เช่น สมุนไพรรักษามะเร็ง หรือในด้านลบ เช่น สมุนไพรเป็นพิษต่อตับ สมุนไพรรักษาโรคไม่ได้ผล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบ ล้วนเกิดจากการไม่เข้าใจในตัวสมุนไพรอย่างถ่องแท้ เราแพทย์แผนไทย จึงพยายามฟื้นฟูและส่งต่อ ภูมิปัญญาอันล้ำลึกของบรรพบุรุษในการใช้สมุนไพรให้กลับเข้ามาสู่วิถีชีวิตของคนไทยอีกครั้ง
H O R A C H A Follow us, the best of Thai herbal Tea in Thailand. The Spirit of Thai Herbal Tea ติดต่อข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ IG : Inbox Horachathailand FB : HorachaThailand Gmail : horacha2020@gmail.com #Horacha #HorachaThailand #Teaherb #Herb #Thailand #Penedge2012 #Penedge
Comments