🌏 ชาป่า เหมือนเป็นธรรมเนียมประเทศไทยเราอย่างนึง เพราะไม่ว่าอะไรที่มาจากป่า ก็มักจะถูกเติมคำว่า “ป่า” ต่อท้ายเสมอ เช่น หมูป่า กวางป่า ไก่ป่า(ถ้าเป็นแถวภาตใต้ บ้านผมจะเรียกไก่เถื่อน) หมาป่า แมวป่า พี่พ่อ อันนั้นป้า (ตึ่งโป้ะ)
⛰️ ชาป่า ก็เช่นกัน มักอยู่ในแถบภาคเหนือและเป็นชื่อเรียกของ ชาอัสสัม แต่จะให้บอกว่าเป็นชาอัสสัม 100% ก็ไม่ใช่ เพราะด้วยระยะเวลาที่ผ่านมายาวนาน ทำให้ชาอัสสัมผสมข้ามสายพันธุ์กับชาจีน จนเกิดชาสายพันธุ์ย่อยต่าง ๆ อีกมากมายและพื้นที่ภาคเหนือก็ยังถูกยกให้เป็นแหล่งชาโบราณของโลกร่วมกับพม่าตอนบนและจีนตอนใต้อีกด้วย
🍃 ในวัฒนธรรมล้านนาก็ไม่ได้นิยมชงชา แต่จะเอาใบชาป่าไปหมักแล้วกินเป็นอาหาร หรือที่เรารู้จักกันว่า “เมี่ยง” นั่นเอง
🍵 สรุปง่าย ๆ ชาป่าคือคำเรียกสายพันธุ์ชาที่อยู่ในป่าแถบภาคเหนือแบบเหมารวมนั่นเอก ซึ่งรสชาติก็จะมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป ตามพื้นที่และสายพันธุ์
💚 สรรพคุณของชามีมากมาย ช่วยกระตุ้นทำให้กระชุ่มกระชวย ไม่ง่วงนอน เพราะมีสารคาเฟอีนนั่นเอง ซึ่งปริมาณสารคาเฟอีนก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์และวิธีการหมักหรือเก็บชาก็มีผลด้วย
สรรพคุณที่เด่น ๆ เลยของชาก็คือ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตสูง ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดไขมัน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง
🤤 จะเห็นได้ว่าสรรพคุณของชามีเยอะมาก ว่าแล้วก็หยิบกา หยิบแก้ว มาชงชากินกันดีกว่าครับ ส่วนตัวผมเองนั้นขออนุญาตไปกินเมี่ยงก่อนครับ ขอไปแอ่วเหนือก่อนละเจ้า
🙏🏻 แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ
🏡 เคล็ดลับดูแลสุขภาพของคนไทยอาจเริ่มต้นง่าย ๆ จากการกินผักและผลไม้ตามฤดู ก็เพียงพอที่จะรักษาสุขภาพของทุก ๆ ท่านให้แข็งแรง อายุยืน อยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข
“อโรคยา ปรมาลาภา”
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
✌️ เป็นกำลังใจให้บทความดี ๆ จากโหราชาด้วยการกดไลก์ กดแชร์กันด้วยนะครับ
💝 ด้วยรักจากโหราชา
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
MEDTHAI
Commentaires